การเปิดสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย ไม่ใช่แค่การติดตั้งอุปกรณ์แล้วเปิดให้บริการได้ทันที แต่ผู้ประกอบการจำเป็นต้องดำเนินการขออนุญาตอย่างถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อสร้างความมั่นใจทั้งในเรื่องความปลอดภัยและการใช้พลังงานอย่างเป็นระบบ
ในบทความนี้ เราสรุปขั้นตอนและเงื่อนไขสำคัญสำหรับการขออนุญาตประกอบกิจการ EV Charging Station ตามข้อกำหนดของสำนักงาน กกพ.
สถานีชาร์จ EV ต้องขออนุญาตหรือไม่?
คำตอบคือ ต้อง — เพราะสถานีชาร์จเข้าข่ายเป็นการประกอบกิจการพลังงานตามพระราชบัญญัติการประกอบกิจการพลังงาน พ.ศ. 2550
โดยการขออนุญาตจะแบ่งเป็น 2 กรณีตาม “ขนาดของระบบจำหน่ายไฟฟ้า” ที่ติดตั้ง:
กรณีที่ 1: ขนาดรวมตั้งแต่ 1,000 kVA ขึ้นไป
- ต้องขอ ใบอนุญาตประกอบกิจการจำหน่ายไฟฟ้า จากสำนักงาน กกพ.
- ตัวอย่างการติดตั้ง: สถานีชาร์จขนาดใหญ่ มีหม้อแปลงไฟฟ้าหรือ Grid-Connected Inverter ขนาดใหญ่
- ต้องยื่นเอกสารขออนุญาตตามระเบียบการประกอบกิจการพลังงาน พ.ศ. 2551
กรณีที่ 2: ขนาดรวม ต่ำกว่า 1,000 kVA
- เข้าข่าย กิจการที่ได้รับการยกเว้น ไม่ต้องขอใบอนุญาตจำหน่ายไฟฟ้า
- แต่ยังคงต้องยื่นเอกสารแจ้งต่อ กกพ. เพื่อรับรองการดำเนินกิจการตาม พ.ร.ก.แจ้งยกเว้น พ.ศ. 2552
- ตัวอย่างการติดตั้ง: สถานีชาร์จขนาดกลาง-เล็ก เช่น ชาร์จ 4-6 หัวในห้างสรรพสินค้า หรืออาคารสำนักงาน
เอกสารและขั้นตอนที่ควรเตรียม
- รายละเอียดสถานที่ติดตั้ง
- แบบระบบไฟฟ้า และแบบสถานีชาร์จ
- รายงานการประเมินความปลอดภัย (Safety Assessment)
- สำเนาใบอนุญาตก่อสร้าง/ปรับปรุงอาคาร (ถ้ามี)
- รายการอุปกรณ์ไฟฟ้าและคุณสมบัติ

ข้อควรรู้เพิ่มเติม
- การดำเนินการโดยไม่มีใบอนุญาต หรือไม่แจ้งต่อ กกพ. อาจเข้าข่ายฝ่าฝืนกฎหมาย และมีโทษตามกฎหมายพลังงาน
- ผู้ประกอบการควรวางแผนตั้งแต่เริ่มต้นโครงการ เพื่อหลีกเลี่ยงความล่าช้าในการเปิดบริการ
- สำหรับสถานีที่มีเป้าหมายทำธุรกิจจำหน่ายไฟฟ้าในอนาคต ควรเตรียมโครงสร้างรองรับการขยายกำลังไฟไว้ล่วงหน้า
สรุป
การขออนุญาตประกอบกิจการสถานีชาร์จ EV ไม่ใช่แค่เรื่องเอกสาร แต่สะท้อนถึงการทำธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบต่อสังคมและระบบพลังงานของประเทศ การเตรียมตัวให้ครบตั้งแต่เริ่มต้นจึงเป็นก้าวสำคัญสู่ความสำเร็จในธุรกิจสถานีชาร์จไฟฟ้า
Reference: ข้อมูลอ้างอิงจาก Anan Industry Co., Ltd. การขออนุญาตประกอบกิจการสถานีชาร์จประจุรถยนต์ไฟฟ้า
Leave a Reply